วิธีการลดสิว มีกี่วิธี ทำยังไงได้บ้าง เครื่องสำอางแบบไหนทำให้เกิดสิว
สิวเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมน และปัจจัยภายนอก เช่น สิ่งสกปรก การอุดตันของรูขุมขน และแบคทีเรีย การดูแลผิวจึงต้องทำอย่างรอบด้าน
วิธีลดสิวที่ได้ผล- ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี
 - เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม : ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และมีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิว
 - ล้างหน้าให้สะอาด : ล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะหลังจากออกกำลังกายหรือสัมผัสสิ่งสกปรก
 - เช็ดหน้าให้แห้ง: ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับหน้าเบาๆ อย่าถูแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
 
- บำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ
 - เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่ไม่ก่อให้เกิดสิว : เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำมัน (oil-free), ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) และมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบ เช่น ซาลิไซลิกแอซิด, ไกลโคลิกแอซิด, หรือทีทรีออยล์
 - ทามอยเจอร์ไรเซอร์ : แม้จะมีสิวก็ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น แต่ควรเลือกสูตรที่ไม่หนักผิว
 
- ป้องกันแสงแดด
 - ใช้ครีมกันแดดทุกวัน : เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมีคุณสมบัติกันน้ำ
 - สวมหมวกและแว่นกันแดด : เพื่อป้องกันแสงแดดทำร้ายผิว
 
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
 - อย่าบีบสิว : การบีบสิวอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายและทำให้สิวอักเสบมากขึ้น
 - รักษาความสะอาดมือ : ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคสัมผัสใบหน้า
 
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต :
 - พักผ่อนให้เพียงพอ : การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
 - ลดความเครียด : ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดสิว
 - ทานอาหารที่มีประโยชน์ : อาหารที่มีใยอาหารสูง วิตามิน และแร่ธาตุเพียงพอช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง
 - ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การดื่มน้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและขับของเสียออกจากร่างกาย
 
เครื่องสำอางที่ควรหลีกเลี่ยง- เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน : น้ำมันอาจอุดตันรูขุมขนและทำให้เกิดสิว
 - เครื่องสำอางที่หมดอายุ : เครื่องสำอาง เช่น ลิปสติก ที่หมดอายุอาจมีแบคทีเรียปนเปื้อน
 - เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว : เลือกเครื่องสำอางที่ระบุว่าเป็นสูตรสำหรับผิวมันหรือผิวเป็นสิว หรือการใช่ลิปสติก  ที่ผิดประเภทก็ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน
 
เมื่อไรควรไปพบแพทย์ผิวหนัง- สิวไม่หายไปหลังจากรักษาด้วยตัวเองเป็นเวลานาน
 - สิวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
 - มีสิวอักเสบมาก
 - มีรอยแดง รอยดำจากสิวเป็นจำนวนมาก
 - มีอาการคัน บวม หรือเจ็บปวดบริเวณที่เป็นสิว
 
คำแนะนำเพิ่มเติม- ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง : แพทย์ผิวหนังสามารถวินิจฉัยสาเหตุของสิวและให้คำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม
 - ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง : แพทย์ผิวหนังสามารถวินิจฉัยสาเหตุของสิวและให้คำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม
 - ใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง : หากแพทย์สั่งยาให้ ควรใช้ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
 - อดทน : การรักษาสิวต้องใช้เวลา อาจเห็นผลชัดเจนหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง
 
การดูแลผิวให้เหมาะสมและสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการลดสิวและมีผิวหน้าที่สวยใส