แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 20
1
เครื่องมือเด็ก EF Line ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้นได้อย่างไร

การจัดฟันในเด็ก ถือเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ที่มีปัญหาของรูปร่างและลักษณะของฟัน ตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ฟันน้ำนมในเด็กนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันกับฟันแท้ เพราะฟันน้ำนมมีบทบาทสำคัญในลำดับขั้นพัฒนาการของเด็ก นอกจากจะเป็นตำแหน่งที่จะเกิดฟันแท้มาแทนที่ ยังช่วยในเรื่องลักษณะทางกายภาพให้มีโครงสร้างร่างกายเป็นปกติ มีฟันไว้ช่วยบดเคี้ยวอาหาร หากฟันน้ำนมมีสุขภาพดี ไม่ผุกร่อนหรือติดเชื้อ ก็จะส่งเสริมพัฒนาการฟันแท้ที่จะงอกตามมาให้สมบูรณ์แข็งแรงไปด้วย

ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรที่จะสอนให้ลูกรู้จักวิธีการดูแลรักษาความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี ควรปลูกฝังให้เด็กตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาฟันในอนาคต หากบุตรหลานของท่านมีปัญหาในเรื่องของความผิดปกติในเรื่องของรูปร่างฟัน หรือลักษณะของฟันที่มีความผิดปกติ ก็ควรที่พาบุตรหลานของท่านเข้าพบทันตแพทย์จัดฟัน เพื่อเตรียมตัวเข้ารับการจัดฟัน เพราะการจัดฟันในเด็กนั้น สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 4-7 ขวบ

ซึ่งเด็กที่มีอายุ 4-7 ขวบ ทันตแพทย์อาจจะใช้เครื่องมือการจัดฟันเด็กที่เราเรียกว่า EF Line ในการรักษา ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้ สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแก้ปัญหากล้ามเนื้อที่มีการทำงานผิดปกติ ช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น รวมถึงจัดการฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติ ซึ่งวันนี้ทางคลินิก Idol Smile เราจะมาพูดถึงในเรื่องของการปรับตำแหน่งลิ้น โดยการใช้เครื่องมือ EF Line เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคน อาจจะยังสงสัยว่า EF Line จะสามารถช่วยปรับตำแหน่งลิ้นได้อย่างไร

ก่อนอื่นเราจะมาพูดถึงเครื่องมือ EF Line ก่อนว่าเครื่องมือดังกล่าวนี้ ทำหน้าที่อะไรบ้าง และมีการทำงานอย่างไร สำหรับเครื่องมือEF Line เป็นชุดเครื่องมือที่สามารถใช้แก้ไขปัญหาในเรื่องของกล้ามเนื้อที่มีการทำงานที่ผิดปกติ ช่วยเสริมสร้างในเรื่องของการปรับรูปของกระดูกช่วยปรับตำแหน่งของลิ้น ซึ่งเราทราบกันอยู่แล้วว่า กระบวนการเจริญเติบโตของเด็กที่เกี่ยวข้องกับกระดูกใบหน้าส่วนกลางและกระดูกขากรรไกรล่าง มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่จะมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็อยู่ที่ช่วงของอายุของเด็ก ดังนั้น ตามหลักแล้ว หากต้องการปรับโครงสร้างใบหน้าจึงต้อง ทำการแก้ไขในช่วงที่เด็กยังมีการเจริญเติบโต ซึ่งในปัจจุบันเราพบว่ากล้ามเนื้อใบหน้าและลิ้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง ขนาด และการทำงานของกระดูกขากรรไกร ดังนั้น ทางทันตกรรมจึงได้มีการออกแบบเครื่องมือ

เพื่อทำการแก้ไขปัญหาของกล้ามเนื้อ ซึ่งต้องร่วมกับการฝึกโดยการออกกำลังกายกล้ามเนื้อ การปรับเปลี่ยนวิธีการหายใจ ซึ่งเครื่องมือ EF Line สามารถใช้ได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 4 – 15 ปี โดยเครื่องมือในกลุ่มนี้มีความหลากหลายในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหารูปหน้าที่มีคางหลุบ ค้างเบี้ยว กระดูกและฟันบนยื่น และกรณีที่เด็กมีรูปหน้าสั้นซึ่งต้องการเพิ่มความสูงใบหน้า

สำหรับการช่วยในเรื่องของปรับตำแหน่งลิ้นนั้น เด็กที่มีปัญหาในเรื่องของการกลืนที่ผิดปกติและตำแหน่งของลิ้นที่ผิดปกติ  ในขณะกลืนจะยื่นลิ้นออกมาอยู่ระหว่างปลายฟันหน้าบนและล่าง ต้องพิจารณาจากขนาดของลิ้น โดยลิ้นอาจมีขนาดใหญ่ผิดปกติ เนื่องจากโรคทางระบบและตำแหน่งของลิ้นในขณะพักตำแหน่งของลิ้นที่ปกติอาจเป็นผลจากขบวนการปรับตัว มักพบในคนไข้ภูมิแพ้ มีการอุดตันของช่องจมูก ขากรรไกรบนแคบมาก ความสูงของใบหน้ามากผิดปกติควรมาพบทันตแพทย์เพื่อทำการแก้ไข ฟันหน้าห่าง การสบฟันหลังคร่อม การพูดออกเสียงไม่ชัด และเกิดการพัฒนาใบหน้าแนวดิ่งมากกว่าปกติ

 ดังนั้น หลักการทำงานของ  EF Line ก็คือ ในขณะที่สวมใส่เครื่องมืออยู่ในปาก นาน 2 ชั่วโมง ในเวลากลางวัน และ 10 ชั่วโมง ในเวลาหลับตอนกลางคืน EF Line จะบังคับให้ขากรรไกรล่างอยู่ในตำแหน่งที่สัมพันธ์กับขากรรไกรบน เป็นผลให้เกิดการปรับตัวของกล้ามเนื้อต่าง ๆ โดยรอบ สู่สภาวะใหม่ที่สมดุล ซึ่งก็เป็นผลย้อนกลับไป เป็นการควบคุมตำแหน่งของกระดูกขากรรไกรที่เปลี่ยนไปให้สมดุลด้วย  หากใครสนใจ พาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็กด้วย EF Line สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทันตกรรมในเด็ก สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง เพราะเราอยากให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

2
บริการด้านอาหาร: อาหารต้านไวรัส เสริมภูมิคุ้มกัน หารับประทานง่าย!

ในการรับประทานอาหาร เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกคน เพราะทุกคนต้องจำเป็นที่ต้องได้รับสารอาหารเพื่อให้ร่างกายได้มีพลังงานที่จะดำเนินชีวิต วิธีการดูแลสุขภาพเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงนั้น นอกจากการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอแล้ว การรู้จักเลือกรับประทานอาหาร ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สุขภาพดีได้ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเพิ่มความสำคัญของการรับประทานอาหารแต่ละหมู่ให้มีความหลากหลาย ไม่จำเจอยู่เพียงอาหารไม่กี่ชนิด หรือรับประทานอาหารซ้ำๆเป็นเวลานาน เนื่องจากอาหารบางชนิด ก็เป็นยาดีของสุขภาพร่างกาย ที่ทำให้เรามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย

ในปัจจุบัน คนเราเริ่มมาดูแลตัวเองมากขึ้น เพราะคงไม่มีใครอยากจะป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ดังนั้น ทางเลือกในการดูแลตัวเอง ด้วยการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ หรืออาหารคลีน ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ใส่ใจสุขภาพหรือสายเฮลตี้ สร้างความสมดุลในร่างกาย เพียงแค่เรารู้จักเลือกสรร และนำไปปรุงให้ถูกวิธี อาหารเพื่อสุขภาพเหล่านี้ก็จะกลายเป็นมื้อที่อร่อยได้ แถมได้ประโยชน์ดีต่อสุขภาพอีกด้วย วันนี้ทางเราจะมาแนะนำอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยต้านไวรัส เสริมภูมคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ด้วยเหตุในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพรระบาดของเชื้อไวรัสที่เรียกว่า โควิด-19 ที่กำลังระบาดในบ้านเราในขณะนี้ การเลือกรับประทานอาหารเพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว

ถ้าหากเราพูดถึงอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงก็คือ วิตามินซี ซึ่งจริง ๆ แล้วในแง่มุมทางด้านโภชนาการ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรค สารพิษและสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตรายต่อร่างกายนั้น คือการที่มีภาวะโภชนาการที่ดี ได้รับพลังงาน สารอาหารหลักทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และสารอาหารรองทั้งวิตามิน A, C, E, D, B6, B9 (โฟเลต), B12 และแร่ธาตุสังกะสี ซีลีเนียม เหล็ก ทองแดง แมกนีเซียม และแมงกานีส รวมทั้งดื่มน้ำสะอาด ที่เพียงพอและสมดุลอย่างต่อเนื่อง

สำหรับอาหารที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการต้านไวรัส เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายคือ บร็อคโคลี่ เป็นผักที่มีรสชาติหวานกรอบ สามารถรับประทานสดได้ หรือจะนำมาประกอบอาหารก็ได้หลากหลายเมนู อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เบต้าแคโรทีน วิตามิน C ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง และผักอย่าง คะน้า ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้ ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในกับร่างกาย ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง และป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ และหอมหัวใหญ่ อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีวิตามินซีสูง และยังมีสารอื่น ๆ เช่น สารเคอร์ซีทิน ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี มีธาตุแมกนีเซียมที่มีคุณสมบัติช่วยทำลายเซลล์มะเร็งและช่วยกำจัดไวรัสได้

รวมไปถึงการรับประทานผลไม้อย่าง มะละกอ เป็นผลไม้ที่ประกอบไปด้วยสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีแคลอรี่ต่ำ ไม่มีไขมันหรือคอเลสเตอรอล มะละกอมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิด ซึ่งช่วยให้สุขภาพของคุณแข็งแรง ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ส้มเขียวหวาน ที่ให้รสชาติที่ไม่เปรี้ยวจนเกินไป แต่จะมีรสหวานอมเปรี้ยวและมีวิตามินสูง โดยเฉพาะวิตามินซี ที่ช่วยต้านไวรัสทางเดินหายใจอย่างโควิด-19ได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้คืออาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม เราควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

 ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาสุขภาพคือ เราควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะทาง เราเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ ที่สำคัญเราจะต้องดูแลตัวเองให้มากๆ ดื่มน้ำมากๆ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เราก็จะไม่เสี่ยงที่จะเกิดโรคที่อาจจะตามมาได้จากการรับประทานอาหารของเราแล้ว และเพื่อจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ช่วยเสริมสร้างให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

3
ระดับน้ำตาล แค่ไหน เป็นโรคเบาหวาน?

โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus: DM) เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) หรือการดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน

ทำให้กระบวนการดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานของเซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติหรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดน้ำตาลสะสมในเลือดปริมาณมาก หากปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะนี้เป็นเวลานานจะทำให้หลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ เสื่อม จนเกิดโรคและอาการแทรกซ้อนขึ้น

โรคเบาหวาน เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และเกิดโรคแทรกซ้อนทางหลอดเลือดตามมา จนเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะทุพพลภาพหรือเสียชีวิตในที่สุด ซึ่ง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นชนิดที่พบได้บ่อยในประชากรไทย โดยพบมากขึ้นในผู้สูงอายุ

ในปัจจุบัน ประเทศไทยยึดหลักเกณฑ์ตามสมาคมเบาหวานแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาในการจำแนกผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยการตรวจปริมาณน้ำตาลในเลือด หากผลการตรวจหลังงดอาหารและเครื่องดื่มที่ให้พลังงานอย่างน้อย 8 ชม. หากพบว่ามีน้ำตาลอยู่ในกระแสเลือดไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แสดงว่าระดับน้ำตาลในเลือดปกติ ทั้งนี้ระดับน้ำตาลในเลือดยังบ่งบอกถึงภาวะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้ด้วย (Prediabetes) ซึ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะเป็นเบาหวานสามารถพัฒนาการเกิด โรคเบาหวานประเภทที่ 2 คือเบาหวานที่เกิดจากการที่ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้ไม่เพียงพอต่อการใช้ อันนำไปสู่โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดในสมองในอนาคตได้ง่ายขึ้น

‘อินซูลิน’ เกี่ยวข้องกับ ‘โรคเบาหวาน’ อย่างไร?

อินซูลิน เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญ โดยสร้างและหลั่งออกมาจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน มีหน้าที่พาน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อเผาผลาญและใช้เป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต หากร่างกายขาดอินซูลินหรืออินซูลินออกฤทธิ์ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ร่างกายก็จะนำน้ำตาลไปใช้ไม่ได้ เป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นจนเกิดเป็น “โรคเบาหวาน” นอกจากนี้การขาดอินซูลินยังทำให้เกิดความผิดปกติในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต รวมถึงมีความผิดปกติในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น มีการสลายตัวของสารไขมันและโปรตีนในร่างกาย

สาเหตุใดที่ทำให้ตับอ่อนสร้างอินซูลินได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และเพราะอะไรที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อต่อการออกฤทธิ์ของอินซูลินนั้น ในทางการแพทย์ก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด ทราบแต่เพียงว่า ปัจจัยทั้งทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมนั้นมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยคนที่เป็นโรคเบาหวานมักมีประวัติพ่อ แม่ พี่ น้อง หรือญาติเป็นโรคเบาหวานด้วย

โรคเบาหวาน มีอาการอย่างไร ?
อาการหลักๆ ที่เป็นสัญญาณว่าคนๆ นั้นมีความเสี่ยงจะเป็นโรคเบาหวาน ได้แก่ รู้สึกหิวบ่อย กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะมีปริมาณมากและบ่อย รวมถึงอาการต่างๆ เหล่านี้ อาทิ

    เหนื่อย อ่อนเพลีย
    ผิวแห้ง เกิดอาการคันบริเวณผิว
    ตาแห้ง
    มีอาการชาที่เท้า หรือรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ปลายเท้า หรือที่เท้า
    ร่างกายซูบผอมลงผิดปกติ โดยไม่สามารถหาสาเหตุได้
    เมื่อเกิดบาดแผลที่บริเวณต่างๆ ของร่างกายมักหายช้ากว่าปกติ โดยเฉพาะแผลที่เกิดกับบริเวณเท้า
    สายตาพร่ามัวในแบบที่หาสาเหตุไม่ได้

10 สัญญาณอันตราย โรคเบาหวาน

    อ่อนเพลียง่าย ทั้งๆ ที่พักผ่อนเพียงพอ และไม่ได้ป่วยไข้
    ผอมลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
    ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
    หิวน้ำมากกว่าปกติ (เพราะร่างกายสูญเสียน้ำจากการปัสสาวะบ่อย)
    ตาพร่ามัวลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
    ปวดขา ปวดเข่า
    ผิวหนังแห้งและมีอาการคัน อาจจะคันตามตัว หรือคันบริเวณปากช่องคลอด
    เป็นฝีตามตัวบ่อยๆ
    อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย
    แผลหายช้า ไม่แห้งสนิทหรือขึ้นสะเก็ด

 ความอ้วนกับโรคเบาหวานเกี่ยวข้องกันหรือไม่?

ปัจจุบันพบว่า น้ำหนักตัวที่มากหรือการมีภาวะอ้วนจะทำให้ร่างกายมีภาวะดื้อต่อการออกฤทธิ์ของอินซูลินมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงทางพันธุกรรมอยู่แล้วก็ยิ่งมีโอกาสเป็นโรคเบาหวานสูงขึ้นหากมีภาวะอ้วน

การรักษาโรคเบาหวาน

-    เบาหวานประเภทที่ 1
ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับ ฮอร์โมนอินซูลิน โดยการฉีด เพื่อเข้าไปทดแทน ควบคู่ไปกับการคุมอาหาร และการออกกำลังกายที่เหมาะสม

-    โรคเบาหวานประเภทที่ 2
หากเป็นในระยะแรกๆ สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกายและการควบคุมน้ำหนัก หากอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจให้ยาควบคู่ไปด้วย หรือฉีดอินซูลินเข้าไปทดแทน เช่นเดียวกับการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 1

สำหรับผู้เป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ควรเข้าฝากครรภ์กับแพทย์ตั้งแต่ในระยะแรก พร้อมทั้งควบคุมการรับประทานอาหารและออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์

 การวินิจฉัยโรคเบาหวาน

แพทย์จะสอบถามอาการผู้ป่วย ประวัติการเจ็บป่วยของผู้ป่วยและของบุคคลในครอบครัว ทำการตรวจร่างกาย เจาะเลือดเพื่อตรวจดูระดับน้ำตาลในเลือด โดยมีวิธีการวิเคราะห์ระดับน้ำตาลในเลือดหลายวิธี ได้แก่

    การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเวลาใดก็ได้ (Random/Casual Plasma Glucose Test)
    การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง (Fasting Plasma Glucose: FPG)
    การตรวจน้ำตาลเฉลี่ยสะสม หรือฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี (Hemoglobin A1c: HbA1c)
    การทดสอบการตอบสนองของฮอร์โมนอินซูลินต่อระดับน้ำตาลในเลือด (Oral Glucose Tolerance Test: OGTT)

หากผู้ป่วยไม่มีอาการของโรคเบาหวานชัดเจน คือ หิวน้ำมาก ปัสสาวะบ่อยและมาก น้ำหนักตัวลดลงโดยที่ไม่มีสาเหตุ การตรวจด้วยวิธีทั้งหมดข้างต้นจำเป็นต้องมีการตรวจซ้ำอย่างน้อย 1 ครั้งด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันผลการวินิจฉัย

การรักษาโรคเบาหวาน

ในปัจจุบัน มีเกณฑ์ที่ใช้ในการวินิจฉัยโรคเบาหวานอยู่หลายข้อด้วยกัน แต่ที่นิยมใช้กันมากคือ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดตอนเช้าหลังอดอาหารและน้ำที่ให้พลังงานข้ามคืน หรืออย่างน้อย 8 ชม. หากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ก็จะเข้าเกณฑ์การวินิจฉัยโรคเบาหวาน (ค่าปกติ คือน้อยกว่า 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร)

หากมีการเจาะเลือดตรวจระดับน้ำตาลโดยไม่อดอาหาร และพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าหรือเท่ากับ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ร่วมกับคนไข้มีอาการปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย และน้ำหนักลด ก็จัดว่าเข้าเกณฑ์การวินิจฉัยโรคเบาหวาน เช่นกัน

 ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่ต้องระวัง

โรคเบาหวานเป็นโรคที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากกว่าปกติ หากไม่มีการควบคุมในเรื่องของการรับประทานอาหารและดูแลรักษาสุขภาพอย่างถูกวิธี ปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเป็นเวลานาน จะส่งผลต่อเส้นเลือดที่นำสารอาหารไปเลี้ยงอวัยวะในร่างกายจนนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ทั้งโรคแทรกซ้อนชนิดที่เกิดกับเส้นเลือดขนาดเล็ก เช่น เบาหวานขึ้นตา โรคไต เป็นต้น หรือโรคแทรกซ้อนชนิดที่เกิดกับเส้นเลือดขนาดใหญ่ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคเส้นเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน เป็นต้น รวมไปถึงโรคแทรกซ้อนที่ระบบประสาท และโรคที่สามารถทำให้ผู้ป่วยต้องสูญเสียอวัยะบางส่วน นอกจากนี้สตรีมีครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวานจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ และการแท้งบุตรได้

การป้องกันโรคเบาหวาน

สิ่งสำคัญของการป้องกันโรคเบาหวานทุกชนิด คือ ต้องคอยหมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสารอาหารครบถ้วน มีกากใยสูง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ รวมถึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นสตรีมีครรภ์ควรเข้ารับการฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่นๆ และเข้าพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

4
สินเชื่อเงินสด: สินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัส 0% 6 เดือน-ธนาคารไทยเครดิต (Thai Credit)
ดอกเบี้ยต่อปีไม่เกิน 5.16 - 5.30%

สินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัส 0% 6 เดือน-ธนาคารไทยเครดิต (Thai Credit)
สินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัส แบบรวมหนี้ตามมาตรการแก้หนี้ระยะยาวของ ธปท.
วงเงินรวมสูงสุด 10 ล้าน
ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี
ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน สำหรับวงเงินรีไฟแนนซ์พลัส*
ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน สำหรับวงเงินอเนกประสงค์*

รายละเอียดสินเชื่อ
   สถาบันทางการเงิน      ธนาคารไทยเครดิต
   ชื่อสินเชื่อ                 สินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัส 0% 6 เดือน
   ประเภทสินเชื่อ           สินเชื่อเงินสดเบิกทั้งจำนวน
   วัตถุประสงค์สินเชื่อ      สินเชื่อเพื่อการโอนหนี้-Refinance
   ลักษณะหลักประกัน     สินเชื่อหลักทรัพย์ค้ำประกัน

   รายละเอียดหลักประกัน
บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม กรรมสิทธิ์ห้องชุด อาคารพาณิชย์ โดยจะได้รับวงเงินสินเชื่อ 2 ประเภท ได้แก่ วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และวงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์ กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท ต่อราย ผู้กู้หรือผู้กู้ร่วมต้องมีกรรมสิทธิ์ในหลักประกัน

   ผู้มีสิทธิ์กู้          ผู้มีรายได้ประจำทุกประเภท เจ้าของกิจการ/ธุรกิจส่วนตัว

   คุณสมบัติผู้กู้     
บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย
อายุระหว่าง 20 - 65 ปี
กรณีพนักงานประจำ และผู้มีอาชีพอิสระ รายได้ 15,000 บาท ขึ้นไปและมีอายุงานไม่ต่ำกว่า 2 ปี
กรณีเจ้าของกิจการ รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป และดำเนินกิจการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี

   วงเงินกู้
สูงสุดไม่เกิน 10,000,000 บาท
กรณีขออนุมัติ LTV 100% หลักประกันจะต้องอยู่ในเขตพื้นที่ที่ธนาคารกำหนดไว้ และเป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องการกำหนดเพดาน LTV

   ระยะเวลากู้           สูงสุด 30 ปี
   วิธีการคิดดอกเบี้ย   อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
   อัตราดอกเบี้ย
ผู้กู้                      จำนวนเงินกู้   ดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมต่อปี
ผู้กู้ทุกประเภท   2,000,000 บาท   5.30 - 5.16 %

   รายละเอียดอัตราดอกเบี้ย

แบบที่ 1 ทำ MRTA

เดือนที่ 1-6 : อัตราดอกเบี้ย 0.00% ต่อปี
เดือนที่ 7-36 : อัตราดอกเบี้ย 4.40% ต่อปี
หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ย 5.85% ต่อปี
*อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา = 5.30%

แบบที่ 2 ไม่ทำ MRTA

เดือนที่ 1 - 6 : อัตราดอกเบี้ย 0.00% ต่อปี
เดือนที่ 7 - 36 : อัตราดอกเบี้ย 4.25% ต่อปี
หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ย 5.70% ต่อปี
*อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา = 5.16%

 หมายเหตุ

คำนวณจากวงเงินกู้ 2 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 30 ปี
อัตราดอกเบี้ย MRR=10.15% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2566)
   หมายเหตุอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยอ้างอิง *MRR ของ บมจ.ธนาคารไทยเครดิต ครั้งที่ 5/2566 เริ่มใช้วันที่ 12 ตุลาคม 2566 ปัจจุบัน *MRR = 10.15% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้
วงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 3.66% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา = 5.30% ต่อปี (คำนวณจากวงเงินกู้ 2 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 30 ปี )
ขอสงวนสิทธิ์โปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ย 0% 6 เดือน สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อรีไฟแนนซ์พลัสเท่านั้น รายละเอียดเป็นไปตามเงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร
ควรกู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
กรณีสมัคร MRTA ทุนประกัน และระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 80% ขึ้นไป ลูกค้าสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
เลือกรับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย
- วงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์** อัตราดอกเบี้ยจะลดลงอีก 0.15%ต่อปี ในเดือนที่ 7 เป็นต้นไป
- วงเงินสินเชื่ออเนกประสงค์*** อัตราดอกเบี้ยจะลดลงอีก 0.50%ต่อปี ในเดือนที่ 4 เป็นต้นไป
- หากยกเลิกประกัน MRTA หรือไม่ผ่านเงื่อนไขการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อก่อนสัญญาครบกำหนด 3 ปี อัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับขึ้นเป็นปกติตามเงื่อนไขผลิตภัณฑ์ที่ได้รับและเบี้ยประกันนั้นจะถูกนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ตามสัญญา
เลือกรับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย
- กรณี เลือกรับฟรีค่าจดจำนอง หากยกเลิกประกัน MRTA หรือไม่ผ่านเงื่อนไขการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อก่อนสัญญาครบกำหนด 5 ปี ในส่วนค่าเบี้ยประกันนั้นจะถูกนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ตามสัญญา
- กรณีที่มีการชำระหนี้เสร็จสิ้นก่อน 5 ปี ลูกค้าต้องชำระคืนค่าจดจำนองให้กับธนาคาร

   ดอกเบี้ยผิดนัด           บวกเพิ่ม 3.00% ต่อปี แต่ไม่เกิน 18.00% ต่อปี โดยคำนวณจากเงินต้นของค่างวดที่ผิดนัดชำระไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

ค่าธรรมเนียม
   ค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้
   ค่าธรรมเนียมเบิกถอน          โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   ค่าการทวงหนี้                   ไม่มีเรียกเก็บ
   ค่าอากรแสตมป์                 ค่าอากรแสตมป์ ปิดสัญญากู้เงิน อัตรา 0.05% ของวงเงินสินเชื่อ (ไม่เกิน 10,000 บาท)

   ค่าธรรมเนียมอื่นๆที่สำคัญ
เงื่อนไขฟรีค่าประเมิน
ลูกค้าต้องได้รับการอนุมัติสินเชื่อเบื้องต้นในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. 67- 31 ธ.ค. 67 และต้องจดจำนองให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ม.ค. 68
ลูกค้าต้องรับผิดชอบสำรองชำระค่าประเมินราคาก่อน ณ วันที่เจ้าหน้าที่ Outsource เข้าประเมินราคาหลักประกัน
ธนาคารจะดำเนินการคืนค่าประเมินราคาที่ลูกค้าสำรองเข้าบัญชีเงินกู้โดยนำไปตัดชำระ ดอกเบี้ยเงินต้น และค่าธรรมเนียม จนถึงวันที่ทำรายการคืนเงิน (เงื่อนไขเป็นไปตามรูปแบบการตัดชำระเงินกู้ของธนาคาร)
เงื่อนไขการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด

การชำระคืน
   ยอดชำระขั้นต่ำ             โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   สิทธิชำระเกินค่างวด       โปรดสอบถามผู้ให้บริการสินเชื่อ
   สิทธิชำระคืนก่อนกำหนด  ไม่มี

5
วัดดวงดี วัดสวย เชียงใหม่ ไหว้พระ เสริมดวง ทำบุญ เพิ่มสิริมงคล

     ไป เชียงใหม่ แล้วก็ต้องไปไหว้พระ ขอพร เสริมดวงกันค่ะ เพราะที่นี่มีวัดเยอะมาก ที่สำคัญก็ดังมากเช่นกัน อย่าง วัดดวงดี เป็น วัดสวย อันเก่าแก่ที่มีสถาปัตยกรรมงามๆ รวมถึงมีสิ่งก่อสร้างอายุหลายร้อยปี ถ้าใครอยากเสริมดวง ไหว้ขอพร ก็ตามเรามาได้เลย

ประวัติ วัดดวงดี

     วัดดวงดี ตั้งอยู่ที่ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อก่อนนั้นจะมีชื่อว่า วัดต้นหมากเหนือ แต่บางตำราก็บอกว่าชื่อ วัดพันธนุดวงดี ค่ะ เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงดงามอย่างไม้แกะสลัก ซึ่งตัววัดเองก็ได้รับประกาศเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2524 นั่นเองค่ะ

     ซึ่ง วัดดวงดี นั้น ก็ถูกสร้างขึ้นภายหลังจากที่พระเจ้ามังรายได้สร้างเมืองเชียงใหม่มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นผู้ใด ตามความเชื่อของคนในสมัยนั้น มักจะสร้างวัดไว้ประจำตระกูล ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นพุทธบูชา หรือเพื่อเป็นการไถ่บาปสำหรับเหล่าทหารชั้นผู้ใหญ่ ที่ออกไปทำศึกแล้วฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนมากค่ะ

     รวมถึงเคยใช้เป็นสำนักเรียนสำหรับลูกเจ้าขุนมูลนายในสมัยก่อนด้วยค่ะ และยังเคยใช้เป็นสถานที่เรียนของนักเรียนยุพราชวิทยาลัยก่อนที่จะมีการก่อสร้างแล้วเสร็จอีกด้วย มาดูภายใน วัดดวงดี กันบ้าง ก็จะมีไฮไลท์อยู่ที่ พระเจดีย์สีขาว โดยเป็นศิลปะล้านนา ฐานสี่เหลี่ยมย่อเก็จ ฐานบัวหกเหลี่ยมซ้อนกันสี่ชั้น รองรับองค์ระฆังขนาดเล็ก ประดับด้วยกระจกสีสวยงาม ส่วนยอดประดับด้วยฉัตรสีทองห้าชั้นตามแบบของล้านนาค่ะ

     อีกทั้งยังมี หอไตร อายุเกือบ 200 ปี ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2372 โดยเจ้ามหาอุปราชมหาวงศ์ มีหลังคาสามชั้น ส่วนยอดเป็นฉัตรเก้าชั้น บริเวณซุ้มประตู หน้าต่าง และเสาอาคาร จะประดับด้วยลายปูนปั้นรูปดอกไม้อย่างสวยงาม แม้จะมีบางส่วนที่ชำรุดไปมากแล้ว แต่ฝาผนังภายในก็ยังมีภาพลายคำเรื่องพระเวสสันดรชาดกหลงเหลือให้ได้ดูกันค่ะ

     แต่ที่พลาดไม่ได้เลยคือ พระพุทธรูปดวงดี พระประธานปางมารวิชัย ที่ประดิษฐานอยู่ภายใน ตรงฐานพระมีจารึกว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเมืองแก้วเมื่อปี พ.ศ. 2039 เป็นพระพุทธรูปที่ต้องไปสักการะเสริมดวงกันเลยค่ะ เป็นการเสริมสิริมงคล ช่วยเสริมดวงกันนั่นเองค่ะ

    ที่อยู่ : ถนนราชภาคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
    เปิดให้เข้าชม : สามารถเข้าชมได้ตามเวลาเปิดปิดของสถานที่

6
จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส สามารถสาามารถทำความสะอาดฟันได้ตามปกติ

การเข้ารับการจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ต้องบอกว่า ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน การจัดฟันแบบใสเป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษา จึงทำมห้การจัดฟันมีผลการรักษาที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการวางแผนการรักษาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน และผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถเห็นผลการรักษาล่วงหน้าได้ รวมไปถึงผู้เข้ารับการจัดฟันสสามารถร่วมวางแผนการรักษาร่วมกับทันตแพทย์ได้อีกด้วย ดังนั้น การจัดฟันแบบใส จึงเป็นที่ได้รับความนิยมมาก เพราะการจัดฟันแบบใส ยังทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของผลข้างเคียงหรือผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการเข้ารับการจัดฟัน เพราะผู้ที่เข้ารับการจัดฟันส่วนใหญ่ มักจะมีปัญหาหรือได้รับผลกระทบระหว่างการจัดฟัน ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเกิดบาดแผลภายในช่องปาก ทำให้ต้องเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับการจัดฟัน พูดไม่ชัด หรือแม้กระทั่ง การทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดฟันผุ หากผู้เข้ารับการจัดฟัน ทำความสะอาดช่องปากและฟันไม่ทั่วถึง สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงการจัดฟันแบบใส ที่จะทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ตามปกติ

หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น จะทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ ถือเป็นจุดเด่นและข้อดีของการจัดฟันแบบใสที่หลายคนเลือกเข้ารับการจัดฟันแบบใส แทนการเข้ารับการจัดฟันแบบทั่วไป ที่สวมใส่เหล็กจัดฟัน นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใส ยังช่วยทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน มีบุคลิกภาพที่ดี เพราะสามารถมีรอยยิ้มที่มั่นใจ โดยที่คนอื่นแทบจะมองไม่ออกว่าเรากำลังสวมใส่เครื่องมือการจัดฟัน ด้วยเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลและยังมีความใส จึงช่วยทำให้รอยยิ้มดูสดใสสวยงาม โดยที่ไม่มีเครื่องมือการจัดฟันอยู่ภายในช่องปาก การจัดฟันแบบใสจึงเหมาะสำหรับดารา นักแสดง พิธีกร หรืออาชีพต่างๆที่ต้องใช้บุคลิกภาพในการทำงาน

และที่สำคัญที่สุดที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ก็คือ การจัดฟันแบบใส ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ตามปกติ โดยผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้เมื่อต้องทำความสะอาดช่องปากและฟัน จึงทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี เพราะได้รับการทำความสะอาดอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การจัดฟันแบบใส นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาฟันแล้ว ยังช่วยส่งเสริมในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการจัดฟันด้วย นี่คือจุดเด่นที่หลายคนเลือกเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพราะถือว่า สามารถตอบโจทย์ไลพ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

สำหรับใครที่สนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์อย่างยาวนาน มีความเชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมครบวงจร จึงทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า คุณจะมีฟันที่สวยงาม และมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ทางคลินิกของเรา ยังได้รับการรับรองสูงสุดจากทาง Invisalign ให้สามารถให้บริการจัดฟันแบบใสได้ถูกต้องตามมาตรฐานสากล จึงทำให้มีความน่าเชื่อถือว่า เมื่อเข้ารับการจัดฟันที่คลินิกของเรา คุณจะมีความปลอดภัยและได้รับการรักษาที่มีมาตรฐานอย่างแน่นอน เพราะเราใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของทุกคน เพื่อที่จะได้มีฟันที่แข็งแรง สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  เพราะเราอยากให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

7
รถไฟฟ้า ev ฮุนได Hyundai-N IONIQ 5N-ปี 2024
3,790,000 บาท

ฮุนได Hyundai-N IONIQ 5N-ปี 2024
HYUNDAI IONIQ 5N รถยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะสูงสุดของฮุนได ก้าวข้ามขีดจำกัดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป ด้วยกำลังขับเคลื่อนถึง 601 แรงม้า มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจอย่างไร้คู่แข่ง เสริมการทำงานด้วยโหมด N Grin Boost ซึ่งจะเพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 641 แรงม้า มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที ด้วยสมรรถนะการขับขี่อันน่าทึ่ง ผสานกับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำหน้าของฮุนได IONIQ 5N จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้น พละกำลัง และนวัตกรรมล้ำยุค เพื่อมุ่งสู่อนาคตแห่งการเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง

รายละเอียดเบื้องต้น
   แบรนด์            Hyundai
   รุ่น                 ฮุนได Hyundai-N IONIQ 5N-ปี 2024
   ประเภทรถ         รถเก๋ง 5 ประตู, Electric - EV
   ปีที่เปิดตัว          2024
   ราคา              3,790,000 บาท

ดีไซน์
   ภายนอก
อุปกรณ์ชุดแต่ง (กันชนหน้า/ลิ้นหน้า/ดิฟฟิวเซอร์หลัว/ช่องระบบอากาศซุ้มล้อหลังดีไซน์สปอร์ตเฉพาะรุ่น N และช่องระบบอากาศด้านหน้าแบบ N Active Air Intakes)
สเกิร์ต (ข้างดีไซน์สปอร์ตเฉพาะรุ่น N)
หลังคาแก้ว (Vision Roof พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า)
สปอยเลอร์หลัง (พร์อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เฉพาะรุ่น N)
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว (LED)
ระบบควบคุมระยะการจอด (เซนเซอร์หน้า-หลัง)
ปัดน้ำฝนกระจกหลัง
ไฟท้าย LED (Parametric Pixel LED)
อุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (มือจับประตูแบบป๊อปอัพ พร์อมเซนเซอร์)
ยางอะไหล่สำรอง (ให้เป็นชุดซ่อมยาง)
ไฟหน้า LED (Parametric Pixel LED)
ขนาดยางหน้า-หลัง (Pirelli P-Zero 275/35 R21)
ไฟ Daytime Running Lights (LED)
ล้ออัลลอย (Forged Alloy 21 นิ้ว)
ระบบ VtoL (Vehicle to Load) (250V / 16A)

   ภายใน
ปลั๊กไฟ 12 โวลท์ (ด้านหน้าและหลัง)
พวงมาลัยหุ้มหนัง (ดีไซน์สปอร์จเฉพะรุ่น N)
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ (เข้า-ออกได้)
กระจกมองหลังตัดแสง (แบบ Digital Center Mirror)
ระบบปรับรูปแบบการขับขี่ ((Eco, Normal, Sport, N Mode))
อุปกรณ์วัดความเร็วสะท้อนกระจก Head Up Display

สเปค
   มอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM) กำลัง 601 แรงม้า กำลัง With N Grin Boost 641 แรงม้า แรงบิด 740/770 With N Grin Boost ความเร็วสูงสุด 260 กม./ชม. อัตราเร่ง 3.5 วินาที/With N Grin Boost 3.4 วินาที เวลาในการชืาร์จแบบกระแสสลับสูงสุด 10.5 kW 7.35 ชัวโมง/เวลาในการชืาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 50 kW 1.10 ชัวโมง/เวลาในการชืาร์จแบบUltra-Fast Charging สูงสุด 350 kW 18 นาที

   กำลังเครื่องยนต์ (แรงม้า)      แรงม้า
   ระบบเกียร์                        เกียร์อัตโนมัติ
   รูปแบบเกียร์                      Single Speed Reduction Gear
   ระบบเบรค ABS                  มี
   ชนิดแบตเตอรี่                    ไฟฟ้า
   ความจุแบตเตอรี่                  84 kWh
   ระยะทางวิ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง     448 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP)
   น้ำหนักตัวรถ                       2,150 กก.
   ประเภทยางรถยนต์                  -
   ขนาดล้อ (นิ้ว)                   ล้ออัลลอย (Forged Alloy 21 นิ้ว)
   ระบบขับเคลื่อน                    ขับเคลื่อนสี่ล้อ

ระบบความปลอดภัยระบบความปลอดภัย

อุปกรณ์ความปลอดภัย
ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ
ดิสก์เบรก 4 ล้อ
กุญแจรีโมท (Smart Keyless Entry)
กุญแจนิรภัย (Immobilizer)
อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอื่นๆ (ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน,ช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน,ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก)
เข็มขัดนิรภัย
กระจกนิรภัย (แบบ Accoustic)
ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (เมื่อเกิดอุบัติเหตุ)
กล้อง (มองรอบทิศทาง)
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) (และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่)
เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning - BSW) (และระบบกล้องมองภาพ)
เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert - RCTA) (เตือนแลเบรกอัตโนมัติ)
ระบบเตือนก่อนเปืดประตู Door Open Warning (DOW) (เมื่อมีรถมาด้านข้าง)
เบรกมือไฟฟ้า (พร้อมระบบ Auto Hold)
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก
เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
ระบบเตือนแรงดันลมยาง

8
7 อาหารสุขภาพ อิ่มท้องนาน สายไดเอตบอกเลยห้ามพลาด

สาวๆ ที่อยู่ในช่วงของการไดเอต หลายครั้งก็มีความกังวลกับประเภทของอาหารที่จะกินเข้าไป เพราะเกรงว่าอาหารเหล่านั้นจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ วันนี้เราจึงรวมอาหาร 7 ชนิดที่มีส่วนช่วยให้อิ่มท้องนาน และจัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับสาวๆ ที่กำลังไดเอตมาฝากกันค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าจะมีอาหารชนิดใดบ้าง

1.ลูกแพร์
ลูกแพร์อุดมด้วยไฟเบอร์เพคติน 24% ซึ่งถือเป็นปริมาณของไฟเบอร์ที่สูงกว่าที่มีอยู่ในแอปเปิลเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ในส่วนของเปลือกลูกแพร์อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายเลยทีเดียว เพราะมีสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง แถมยังมีส่วนช่วยบำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรงอีกด้วย ดังนั้นถ้าสาวๆ ต้องการกินลูกแพร์ แนะนำให้กินพร้อมเปลือกจะดีที่สุด

2.ส้ม
ส้มก็ถือเป็นอาหารที่มีส่วนช่วยให้อิ่มท้องนานเช่นกัน นั่นเป็นเพราะมีกากใย โดยในส่วนของกากใยนั้นอุดมด้วยไฟเบอร์เพคตินอยู่ประมาณ 70% ดังนั้นเมื่อสาวๆ กินส้ม อย่าเผลอไปดึงกากใยออกเชียวนะคะ แนะนำให้กินพร้อมกากใยไปเลย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างไฟเบอร์เพคตินนั่นเอง

3.ถั่วแดง
ถั่วแดง จัดเป็นอาหารที่ให้โปรตีนเท่ากับการกินเนื้อสัตว์เลยก็ว่าได้ โดยปริมาณของถั่วแดง 1 ถ้วยตวง ให้โปรตีนเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์ 2 กรัม ซึ่งถือว่าสาวๆ สามารถกินถั่วแดงแทนการกินเนื้อสัตว์ได้เลย ที่สำคัญการกินถั่วแดงช่วยให้ร่างกายได้รับแคลอรีต่ำและยังช่วยให้อิ่มท้องนาน

4.กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวอุดมด้วยไฟเบอร์ประมาณร้อยละ 10 จัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับการกินในช่วงไดเอตอย่างมาก เนื่องจากในกระเจี๊ยบเขียวจะมีปริมาณแคลอรีเพียง 30 กิโลแคลอรี แถมยังจัดเต็มไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม โฟเลต และธาตุเหล็ก ที่สำคัญหากสาวๆ กินกระเจี๊ยบเขียวในช่วงลดน้ำหนัก จะช่วยให้สามารถต้านความหิวได้ตลอดวันเลยทีเดียว

5.กะหล่ำดาว
กะหล่ำดาวอุดมด้วยไฟเบอร์ร้อยละ 16 พร้อมทั้งให้แคลอรีต่ำ ทั้งนี้การเอากะหล่ำดาวประมาณ 156 กรัมมาปรุงสุกและกินในช่วงไดเอต จะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานเพียง 56 กิโลแคลอรีเท่านั้น แต่ยังคงช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องนาน

6.โอ๊ตมีล
โอ๊ตมีลจัดเป็นอาหารที่กลุ่มคนไดเอตนิยมกินกันมาก เพราะนอกจากจะช่วยให้อิ่มท้องนานแล้ว ยังช่วยลดความอยากกินจุบจิบได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้แนะนำให้กินคู่กับผลไม้หรือธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่หลากหลาย

7.ข้าวบาร์เลย์
ข้าวบาร์เลย์มีไฟเบอร์สูงถึงร้อยละ 75  โดยสาวๆ สามารถเอาข้าวบาร์เลย์มาดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ ได้มากมาย ทั้งนี้แนะนำให้กินคู่กับสลัดผัก จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย สำหรับสาวๆ ที่กินข้าวบาร์เลย์ในช่วงไดเอต จะช่วยให้กากใยถูกย่อยแตกตัวเป็นกรดบิวไทลิก ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง พร้อมทั้งช่วยบำรุงหัวใจ ถือเป็นการกินอาหารเพื่อลดน้ำหนักที่มาพร้อมกับการป้องกันโรคร้ายเลยก็ว่าได้

เอาเป็นว่าถ้าสาวๆ มีความตั้งใจจะไดเอต แต่ก็ไม่สามารถบอกลาการกินของอร่อยๆ ไปได้ แนะนำให้กินอาหาร 7 ชนิดนี้ในช่วงที่กำลังลดน้ำหนักดูค่ะ บอกเลยว่านอกจากจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้สำเร็จแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลายอีกด้วย

9
บ้านใหม่ 2024: แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ - เมืองทอง (Grandio Chaengwattana - Muangthong)
เริ่มต้น 12 ลบ. - 20 ลบ.

แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ - เมืองทอง (Grandio Chaengwattana - Muangthong)
Grandio แจ้งวัฒนะ - เมืองทอง โครงการบ้านจาก เฟรเซอร์ส บ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้น ใช้ชีวิตเหนือระดับ บนที่สุดแห่งทำเลศักยภาพ เชื่อมต่อเส้นทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย ด้วยถนนสายหลักโดยรอบ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า MRT ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ              แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ - เมืองทอง (Grandio Chaengwattana - Muangthong)
 เจ้าของโครงการ         เฟรเซอร์ส
 แบรนด์ย่อย              แกรนดิโอ
 ราคา                      เริ่มต้น 12 ลบ. - 20 ลบ. (ณ. วันที่ 23 เม.ย. 67)
 คำนวณเงินผ่อน         คำนวณเงินผ่อนโครงการนี้

 ประเภทบ้าน            บ้านเดี่ยว
 ลักษณะทำเล          บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ          41 ไร่ 2 งาน 43 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน             140 หลัง
 แบบบ้านทั้งหมด       3 แบบ
  เนื้อที่บ้าน             โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย           ตั้งแต่ 216 ถึง 320 ตร.ม.
 จำนวนชั้น              2 ชั้น
 หน้ากว้าง              โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน       ตั้งแต่ 4 ถึง 5 ห้อง
 จำนวนที่จอดรถ       ตั้งแแต่ 2 ถึง 3 คัน
 สาธารณูปโภค         สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน     นนทบุรี, บางบัวทอง, บางใหญ่, ปากเกร็ด
 ที่ตั้ง     ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีชมพู, สถานี(แคราย - มีนบุรี)(ไม่ระบุ)
ใกล้ทางด่วน (ทางด่วน เมืองทองธานี)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนติวานนท์, ถนนสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง
แหล่ง shopping
1. โลตัส ติวานนท์ 600 ม.
2. โรบินสัน ศรีสมาน 3.3 กม.
3. คอสโม บาซาร์ 3.5 กม.
4. บิ๊กซี 4 กม.
5. เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ 6 กม.

สถานศึกษา
1. โรงเรียนอัมพรไพศาล 1 กม.
2. โรงเรียนพิชญศึกษา 2 กม.
3. โรงเรียนหอวังนนทบุรี 2.3 กม.
4. มหาวิทยาลัยสุโขทัยฯ 2.4 กม.
5. โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี 3.5 กม.
6. โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ 4.2 กม.
7. International School Bangkok (ISB) 9 กม.
8. MYIS International School (Magic Years) 9.8 กม.

สถานพยาบาล
1. โรงพยาบาลกรุงไทย 3 กม.
2. โรงพยาบาลปากเกร็ด 4 กม.
3. โรงพยาบาลวิภารามปากเกร็ด 4.2 กม.
4. โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล 6 กม.

 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

10
หมอประจำบ้าน: โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory bowel disease/IBD)

หากสงสัย ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งจะทำการตรวจวินิจฉัยและให้การรักษา

ในรายที่อาการเล็กน้อย แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ และแนะนำให้ผู้ป่วยปฏิบัติตัวในเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย การคลายเครียด การไม่สูบบุหรี่ ซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาอาการและลดความรุนแรงของโรค

ในรายที่เป็นรุนแรง แพทย์จะให้ยาควบคุมการอักเสบ ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม อาทิ ยาต้านการอักเสบ (เช่น สเตียรอยด์, mesalazine, sulfasalazine), ยากดภูมิคุ้มกัน (เช่น azathioprine, cyclosporine, methotrexate), ยาชีววัตถุ (biologics เช่น infliximab, adalimumab, vedolizumab)

นอกจากนี้ แพทย์จะให้การรักษาตามอาการและแก้ไขภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้, ยาแก้ท้องเดิน (เช่น โลเพอราไมด์), ยาปฏิชีวนะ (เช่น ไซโพรฟล็อกซาซิน เมโทรไนดาโซล) ในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย, ยาบำรุงโลหิตในรายที่มีภาวะซีด, โภชนบำบัดในรายที่น้ำหนักลดมาก, การผ่าตัด (เช่น ลำไส้ทะลุ มะเร็งลำไส้ ฝีคัณฑสูตร ลำไส้มีเลือดออกมาก หรือลำไส้อักเสบรุนแรง และใช้ยารักษาไม่ได้ผล)

ผลการรักษา ส่วนใหญ่การรักษาด้วยยาเป็นการบรรเทาอาการและควบคุมการอักเสบ ซึ่งอาการมักดีขึ้นภายใน 2-4 สัปดาห์ แต่เนื่องจากโรคนี้มักเป็นเรื้อรังไม่หายขาด จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน แพทย์ก็จะทำการแก้ไขให้ปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

11
การตรวจฟันในเด็กเล็กก่อนเข้ารับการจัดฟันเด็ก

ในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของลูกน้อย ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองควรจะที่เอาใจใส่ให้มากเป็นพิเศษ สุขภาพฟันถือว่าเป็นสุขอนามัยเบื้องต้น ที่เด็กจะต้องรักษาความสะอาดให้ดี เพราะถ้าหากเกิดฟันผุแล้ว คงไม่ดีต่อตัวเด็กแน่ๆ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรที่จะพาเด็กไปพบทันตแพทย์ ก่อนที่ฟันน้ำนมจะขึ้นครบทั้งยี่สิบซี่ หรือเด็กมีอายุระหว่าง 2-3 ขวบ เมื่อไปพบทันตแพทย์ครั้งแรกนั้น ทันตแพทย์จะพุดคุยกับเด็กก่อน

เพื่อสร้างความสนิทสนม สร้างทัศนคติที่ดีต่อสุขภาพช่องปากและฟัน จากนั้นก็จะแนะนำเครื่องมือในการทำฟันต่างๆให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยและไม่กลัว จากนั้นจึงจะตรวจฟันเด็ก และให้คำแนะนำกับผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีรักษาความสะอาดฟันของเด็ก ตลอดจนอาหารที่ควรรับประทานและการใช้ฟลูออไรด์ ควรพาไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง นี่ถือว่าเป็นการเข้ารับการตรวจฟันทันตแพทย์ในเบื้องต้น เพื่อที่ทันตแพทย์จะได้แนะนำแนวทางในการดูแลรักษาความสะอาดของช่องปากและฟันให้เด็ก เพื่อสร้างความเข้าใจให้เด็กได้รับรู้ถึงความสำคัญของสุขภาพฟัน

แต่สำหรับเด็กที่มีปัญหาในเรื่องของฟันนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรที่จะพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก แต่หลายคนอจจะกังวลและไม่ทราบว่า จะต้องพูดให้เด็กทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาจึงอาจจะรู้สึกหนักใจ วันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของการพาบุตรหลานเข้ารับการตรวจฟันก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการจัดฟันในเด็ก เพื่อที่ให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เป็นแนวทางในการเตรียมตัวและปฏิบัติตัวก่อนพาบุตรหลานขรับการจัดฟันในเด็กกับทันตแพทย์จัดฟัน

ก่อนที่เราจะมาพูดถึงเรื่องของการพาบุตรหลานเข้ารับการตรวจฟันก่อนเข้ารับการจัดฟัน ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องฟันน้ำนมของเด็กก่อน เพราะเนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนยังคิดว่า ฟันน้ำนมของเด็กนั้นไม่สำคัญ คิดว่าถ้าถอนทิ้งก็คงไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวก็มีฟันแท้ขึ้นมาแทน ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจผิด เพราะฟันน้ำนมมีบทบาทสำคัญมาก ต่อลักษณะการขึ้นของฟันแท้โดยตรงและถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะถาฟันน้ำนมของเด็กหลุดก่อนวัยอันควร ก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดภาวะฟันแท้หายได้เลย ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายและส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพฟันด้วย ดังนั้น เด็กในวัยประถมที่ยังมีฟันน้ำนมก็สามารถจัดฟันได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น หลายปัญหาอาจสามารถหลีกเลี่ยง หรือลดความรุนแรงได้ หากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ

สำหรับ การตรวจฟันในเด็กก่อนที่จะเข้ารับการจัดฟัน พ่อแม่ผู้ปกครองคงจะต้องสร้างทัศนคติที่ดี พูดให้เด็กเข้าใจถึงผลลัพธ์ของการมีสุขภาพฟันที่ดี เพื่อลดความกังวลในเด็กเมื่อต้องเข้าพทันตแพทย์ การพาเด็กไปพบทันตแพทย์มีส่วนช่วยป้องกันฟันผุให้เด็กได้ โดยที่เด็กจะได้ประโยชน์จากการตรวจสภาพช่องปาก และจะทำให้ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมต่อการดูแลฟันเด็กในแต่ละคน ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะได้เรียนรู้ หรือฝึกการแปรงฟันให้เด็กได้ และยังมีส่วนช่วยให้เด็กเกิดความคุ้นเคยกับทันตแพทย์และให้ความร่วมมือที่ดีต่อการรักษาฟันต่อไป เมื่อถึงเวลาที่เข้ารับการจัดฟัน เด็กจะได้มีความคุ้นชินและลดคาวมกังวลลงได้นั่นเอง

 สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใด สนใจพาบุตรหลานของท่านเข้ารับการจัดฟันในเด็ก สามารถพาเด็กเข้ามาตรวจกับทันตแพทย์ของทางคลินิกได้เลย เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมที่จะคอยให้คำปรึกษาในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาด พร้อมกับช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อสุขภาพฟันให้เด็กได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสุขอนามัยในช่องปาก เพื่อให้เด็กได้มีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะเราอยากให้เด็กๆทุกคนมีรรอยิ้มที่สดใส มีพัฒนาการที่ดี สสามารถใช้ชีวิตประจำวัน ทำกิจกรรมในแต่ละวันได้อย่างเต็มที่และมีความสุข

12
all new mitsubishi triton 2024: ไฮไลต์ มิตซูบิชิ ไทรทัน แกร่งพร้อมลุย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

มิตซูบิชิ ไทรทัน กระบะที่เป็นความลงตัวระหว่างดีไซน์ภายนอกที่แข็งแกร่งและสมรรถนะอันทรงพลัง ตามคอนเซปต์ ‘แกร่ง ลุยทุกอุปสรรค’ เพราะนอกจากความแข็งแกร่งทนทานอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ก็ยังตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบายได้อย่างแท้จริง ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ MIVEC 181 แรงม้า ช่วงล่างสุดแกร่ง  เกาะถนนดีเยี่ยมชนะทุกความท้ายทาย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน จึงทำให้ มิตซูบิชิ ไทรทัน คันนี้ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว สำหรับใครที่กำลังมองหากระบะที่ทั้งแกร่งและหรูหรา เราก็ได้รวบรวมไฮไลต์ที่น่าสนใจของมิตซูบิชิ ไทรทัน มาฝากกันเช่นเคย

ภายใน

  ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Bi-LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED

 สปอยเลอร์หลังพร้อมกล้องมองหลังบริเวณมือเปิดประตูท้าย

 ไฟท้าย และไฟเบรกแบบ LED พร้อม LED Light Guide

 ไฟตัดหมอกหน้า

 ล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 18 นิ้ว

  พื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ห้องโดยสารถูกออกแบบมาในโทนสีเข้ม ดุดัน พร้อมพื้นที่ที่กว้างขึ้นกว่าเดิม เบาะนั่งโอบกระชับรับกับทุกสรีระ สามารถยืดขาผ่อนคลายได้ระหว่างทาง เบาะนั่งถูกออกแบบตามสรีระเพื่อความลงตัวในการขับขี่ พร้อมระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารตอนหลัง ภายในใช้วัสดุเก็บเสียงและวัสดุกันสะเทือน เพื่อความสมบูรณ์แบบในการขับขี่อย่างแท้จริง

เทคโนโลยีความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก

 จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี พร้อม 3D Animation

  ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด ในขณะที่รถกำลังถอยหลัง หากเซนเซอร์ด้านหลังตรวจพบรถคันอื่นเข้ามาภายในรัศมีการตรวจจับ ระบบจะส่งเสียงเตือนและสัญญาณไฟกะพริบบนกระจกมองข้างทั้ง 2 ด้าน พร้อมแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอแสดงผล

  กล้องมองภาพรอบคัน ระบบทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพได้รอบคัน เพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

  ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ระบบจะทำงานโดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถหรือคนเดินถนนข้างหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้า หรือคนเดินถนนในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และบรรเทาความเสียหายจากการชน

 ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน

ระบบจะตรวจจับรถคันอื่นที่วิ่งอยู่ในเลนถัดไปทางด้านหลัง ในระยะประมาณ 70 ม. และส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตา ซึ่งอาจไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง และในขณะเดียวกันหากเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งเสียงเตือน พร้อมสัญญาณไฟกะพริบบนกระจกมองข้าง เพื่อความปลอดภัยในการเปลี่ยนช่องจราจร ทั้งนี้ การทำงานของระบบขึ้นอยู่กับความเร็วสัมพัทธ์ระหว่างรถกับรถในเลนถัดไป

  ช่วงล่างแกร่ง ด้วยแชสซีส์เหล็กกล้า 2 ชั้น แชสซีส์เหล็กกล้า 2 ชั้น ไร้รอยต่อตลอดความยาว และระบบกันสะเทือน ให้คุณมั่นใจทุกสภาพพื้นผิว ด้วยการออกแบบและพัฒนาทางวิศวกรรมอย่างดีเยี่ยม

▪ ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัยสำหรับการขับขี่ในยามค่ำคืน ระบบจะตรวจจับแสงไฟจากด้านหน้ารถ เพื่อปรับการทำงานของไฟสูงและไฟต่ำโดยอัตโนมัติ

  ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบจะทำงานทันที หากตรวจพบว่าแสงสว่างจากภายนอกไม่เพียงพอ

  ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง เสริมความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง บริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย ช่วยลดความรุนแรงที่เกิดจากการชนทั้งด้านหน้า และด้านข้าง ทำงานร่วมกันกับเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ

  เข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ แบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง

  ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก จะทำงานทันทีเมื่อเหยียบเบรกกะทันหัน ช่วยให้คุณหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างทันท่วงที

 ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานประสานกับระบบเบรก ABS เพื่อให้เกิดการกระจายแรงเบรก อย่างเหมาะสมทั้ง 4 ล้อ ช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลง

 ระบบเสริมแรงเบรก จะทำงานทันทีที่เหยียบเบรกกะทันหัน ระบบนี้จะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้การหยุดรถเป็นไปอย่างรวดเร็ว

  ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ช่วยป้องกันรถไหล เมื่อต้องออกตัวบนทางลาดชัน

  ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล ระบบจะช่วยควบคุมการหมุนของล้ออย่างสมดุลในสภาวะถนนลื่น ขรุขระ หรือทางลาดชัน เพื่อไม่ให้รถสูญเสียการยึดเกาะถนน

  โครงสร้างนิรภัยเหล็กกล้า ใช้เหล็กแรงดึงสูง (High Tensile Steel) เพื่อความปลอดภัยขั้นสูง และน้ำหนักเบา ช่วยลดการยุบตัวของห้องโดยสาร ทำให้ห้องโดยสารเสียหายน้อยที่สุดจากการชนทั้งจากด้านหน้าและหลัง

 คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกด้านข้างประตู เสริมความแข็งแรง เพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่เข้าสู่ห้องโดยสาร เมื่อเกิดการชนจากด้านข้าง

  ระบบเบรก ดิสก์เบรกล้อหน้า พร้อมช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่ ดรัมเบรกล้อหลังขนาดใหญ่

 รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.9 ม. ช่วยให้คุณเลี้ยวกลับรถได้อย่างมั่นใจ สะดวก และคล่องตัว

 ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบจะช่วยควบคุมการทรงตัวของรถ ในสภาวะที่รถเสียสมดุล เพื่อป้องกันการลื่นไถลออกนอกเส้นทาง เช่น เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ถนนลื่น หรือหักหลบกะทันหัน

ขุมพลังเครื่องยนต์

  เครื่องยนต์ไมเวค คลีน ดีเซล 2.4 ลิตร 181 แรงม้า MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control) อัจฉริยภาพแห่งเครื่องยนต์ลิขสิทธิ์เฉพาะจากมิตซูบิชิ กับระบบควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดีแปรผัน ทำงานสอดคล้องกับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ ควบคุมการทำงานด้วยสมองกลอัจฉริยะ ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำและได้แรงม้ามากขึ้นในรอบสูง อัตราเร่งดี ช่วยให้การเผาไหม้หมดจด ลดมลพิษในอากาศ

  VG Turbo เพิ่มประสิทธิภาพแรงอัดอากาศด้านไอดีให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ ด้วยเทอร์โบแปรผันที่สามารถควบคุมปริมาณไอเสีย เพื่อช่วยสร้างแรงอัดอากาศด้านไอดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดสูงทั้งในรอบต่ำ รอบปานกลาง และรอบสูงอย่างต่อเนื่อง ทำงานร่วมกับอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ ช่วยลดความร้อนไอดีได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไอดีมีความหนาแน่นมากขึ้น เพิ่มความแรงให้กับเครื่องยนต์ ตอบสนองอัตราเร่งได้ทันใจ

  SUPER SELECT 4WD II ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ เอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้ความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน โดยคุณสามารถเลือกเปลี่ยนโหมดที่เหมาะสมกับสภาพถนนได้อย่างง่ายดาย

สภาพถนนปกติ ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เหมาะสำหรับการขับขี่บนสภาพถนนปกติ ให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน เพราะกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมด 100% จะถูกส่งไปยังล้อคู่หลังเท่านั้น

สภาพถนนเปียกลื่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำงานแบบ Full-Time All Wheel Control เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็ว ระบบส่งกำลัง Torsen (Torque Sensitive Type) จะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้า 40% และล้อหลัง 60% บนถนนแห้ง และล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เมื่อถนนเปียกลื่น เพื่อประสิทธิภาพในการเกาะถนนและความปลอดภัย

สภาพเส้นทางขรุขระ  ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำหน้าที่ส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางขรุขระ แต่ยังสามารถใช้ความเร็วได้ หรือเส้นทางที่มีพื้นผิวแบบลื่นไถล (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้บนถนนแห้ง)

สภาพเส้นทางวิบาก ระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 โดยมีระบบ Center Differential Lock ทำงานร่วมกับระบบล็อกเฟืองท้ายหลัง (Rear Differential Lock) ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ในการส่งกำลังในอัตราส่วนล้อหน้า 50% และล้อหลัง 50% เท่ากันตลอดเวลา และเกียร์ส่งกำลัง (Transfer Gear Ratio) จะเพิ่มอัตราทดให้สูงขึ้น ช่วยทำให้กำลังการขับเคลื่อนมีมากขึ้น เหมาะสำหรับสภาพเส้นทางที่วิบาก ลุยโคลน เส้นทางแบบมีเนินหินสลับ หรือมีความลาดชันมากๆ (ในตำแหน่งนี้ไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 70 กม./ชม.)

รุ่นรถ มิตซูบิชิ ไทรทัน

 เมกะ แค็บ พลัส 2.4 GLX 6MT ราคาเริ่มต้น 697,000 บาท

 ซิงเกิ้ล แค็บ 4WD 2.4 GL 6MT ราคาเริ่มต้น 669,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ 4WD แอทลีท AT ราคาเริ่มต้น 1,196,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ 4WD 2.4 GLS 6MT ราคาเริ่มต้น 958,000 บาท

มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท

 ดับเบิ้ล แค็บ 4WD ATHLETE ราคา 1,196,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ พลัส ATHLETE GT ใหม่ ราคา 1,005,000 บาท

*เฉพาะสีขาว WHITE DIAMOND / BLACK ROOF เพิ่ม 10,000 บาท

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ

 ดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 GLS 6MT ราคาเริ่มต้น 846,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 GT 6MT ราคาเริ่มต้น 906,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 GLS 6AT ราคาเริ่มต้น 919,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 GT 6AT ราคาเริ่มต้น 956,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 GT Premium 6AT ราคาเริ่มต้น 1,028,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ 4WD 2.4 GLS 6MT ราคาเริ่มต้น 958,000 บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ 4WD 2.4 GT Premium 6AT ราคาเริ่มต้น 1,152,000 บาท

มิตซูบิชิ ไทรทัน เมกะ แค็บ

เมกะ แค็บ พลัส 2.4 GLX 6MT ราคาเริ่มต้น 697,000 บาท

เมกะ แค็บ พลัส 2.4 GLS 6MT ราคาเริ่มต้น 747,000 บาท

เมกะ แค็บ พลัส 2.4 GT 6MT ราคาเริ่มต้น 807,000 บาท

เมกะ แค็บ พลัส 2.4 GT 6AT ราคาเริ่มต้น 857,000 บาท

มิตซูบิชิ ไทรทัน ซิงเกิ้ล แค็บ

 ซิงเกิ้ล แค็บ 4WD 2.4 GL 6MT ราคาเริ่มต้น 669,000 บาท

 ซิงเกิ้ล แค็บ 4WD 2.4 GL 6AT ราคาเริ่มต้น 714,000 บาท

มิตซูบิชิ ไทรทัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ

 ซิงเกิ้ล แค็บ 2.5 GL 5MT ราคาเริ่มต้น 539,000  บาท

 เมกะ แค็บ 2.5 GLX 5MT ราคาเริ่มต้น 650,000  บาท

 เมกะ แค็บ 2.5 GLX LIMITED EDITION ราคาเริ่มต้น 647,000  บาท

 เมกะ แค็บ 2WD GLX RUKKIT Edition ราคาเริ่มต้น 647,000  บาท

 ดับเบิ้ล แค็บ 2.5 GLX 5MT ราคาเริ่มต้น 685,000  บาท

มิตซูบิชิ ไทรทัน S-Limited ใหม่

ดับเบิ้ล แค็บ พลัส S-Limited สี White Diamond

รุ่น MT ราคา 885,000 บาท รุ่น AT ราคา 945,000 บาท

13
บริการทำความสะอาด: ทำความสะอาดห้องน้ำ ด้วยน้ำยาล้างจาน

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ต้องเจอกับปัญหาความระคายเคืองจากการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ จนทำให้เกิดอาการแสบจมูก แสบตา หรือรู้สึกแสบไปถึงคอ เพราะสูดกลิ่นของน้ำยาล้างห้องน้ำเข้าไป ทำให้กลัวการใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำไปเลย จนสงสัยว่าเราจะสามารถใช้น้ำยาอื่น ๆ เพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้หรือไม่ เช่น การใช้น้ำยาล้างจานมาทำความสะอาดห้องน้ำแทน

น้ำยาล้างจาน ล้างห้องน้ำได้จริงไหม ?

แน่นอนว่าสามารถใช้แทนได้จริง ! แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าอาจจะไม่ได้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่เทียบเท่ากับการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำทำความสะอาดโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อดีมากมายที่ช่วยให้คนที่มีอาการแพ้ ระคายเคือง จากการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำทั่ว ๆ ไปได้ใช้อย่างอุ่นใจ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้

    ช่วยขจัดคราบไขมันได้ดี : น้ำยาล้างจานมีสารทำความสะอาดเพื่อใช้ขจัดคราบไขมันและน้ำมันต่าง ๆ ได้ดี จึงจัดการกับคราบสบู่ คราบแชมพู และครีมนวดได้อย่างมั่นใจ

    มีฤทธิ์เป็นด่าง : ช่วยขจัดคราบตะกรัน คราบหินปูน และคราบสกปรกที่ไม่ได้ฝังลึกได้อย่างหมดจด

    ปลอดภัยไร้สารตกค้าง : เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดภาชนะสำหรับรับประทานอาหาร จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะนำมาใช้ล้างห้องน้ำได้อย่างปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ

เทคนิคใช้น้ำยาล้างจานมาล้างห้องน้ำ

    คราบสกปรกทั่วไป : ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำเปล่า แล้วขัดเบา ๆ ได้เลย
    สำหรับคราบฝังแน่น : ผสมน้ำยาล้างจานกับเบกกิ้งโซดาในอัตราส่วน 1:1 หลังจากนั้นให้ใช้ทำความสะอาดเฉพาะจุด โดยราดทิ้งไว้ และใช้แปรงขัดได้เลย
    สำหรับคราบตะไคร่น้ำ: ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 1:1 ใช้แปรงจุ่มและขัดบริเวณตะไคร่น้ำออกได้เลย
    สำหรับรอยสนิม : บีบน้ำมะนาวลงบนรอยสนิม ทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นใช้แปรงจุ่มน้ำยาล้างจานที่เจือจางด้วยน้ำเปล่า และนำไปขัดถูเบา ๆ
    สำหรับยาแนว : หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างจานโดยตรง ให้ใช้แปรงสีฟันจุ่มน้ำยาแล้วขัดเบา ๆ เพื่อค่อย ๆ ทำความสะอาด โดยไม่ทำลายพื้นผิวยาแนว

ข้อควรรู้ก่อนใช้งาน

    น้ำยาล้างจานอาจไม่สามารถขจัดคราบฝังลึก หรือคราบประเภทอื่น ๆ เช่น คราบสนิม คราบรา ได้ดี ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะจุดเข้ามาช่วย หรือใช้เบกกิ้งโซดาเพื่อขจัดคราบนั้น ๆ
    การใช้น้ำยาล้างจานเป็นเวลานานอาจทำให้พื้นผิวเสียหาย
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดวงตาและผิวหนังโดยตรง

น้ำยาล้างจานสามารถใช้ล้างห้องน้ำได้ แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง และอาจไม่เหมาะกับการทำความสะอาดคราบฝังลึก แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำสูตรฉลากเขียวที่เหมาะกับพื้นผิว หรือเลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติ เช่น น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดาแทน
น้ำยาล้างห้องน้ำยังใช้ได้ แค่เลือกให้ถูก !

ห้องน้ำสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างห้องน้ำฉลากเขียว

ถึงน้ำยาล้างจานจะสามารถใช้ทดแทนการล้างห้องน้ำได้ แต่จะเห็นได้ว่าก็ยังมีข้อจำกัดในหลาย ๆ อย่าง ซึ่งอาจจะทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดได้ดีเทียบเท่ากับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำโดยตรง

คำถามคือ ? แล้วแบบนี้จะเลือกผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำอย่างไร ให้อุ่นใจได้มากขึ้นกัน ?

คำตอบคือ ให้มองหาน้ำยาล้างห้องน้ำ สูตรฉลากเขียว ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยที่ให้ไว้เพื่อแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ภายใต้คุณสมบัติเหล่านี้

    ไม่มีสารเคมีอันตราย เช่น สารฟอกขาว กรดเข้มข้น สารระเหยง่าย สารโลหะหนัก สารก่อมะเร็ง ฯลฯ
    ย่อยสลายทางชีวภาพได้ ทำให้สามารถช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
    ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ลดความเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิวหนัง ดวงตา และสุขภาพในระยะยาว
    มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาด สามารถขจัดคราบสกปรกได้ดี โดยปราศจากสารพิษร้ายแรง

ข้อดีของน้ำยาล้างห้องน้ำฉลากเขียว

    ปลอดภัยต่อสุขภาพ : ผู้ใช้ไม่ต้องสัมผัสกับสารเคมีอันตราย ลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคผิวหนัง
    เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : สารเคมีในน้ำยาล้างห้องน้ำฉลากเขียวสามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อแหล่งน้ำและดิน
    หาซื้อง่าย : ปัจจุบันมีน้ำยาล้างห้องน้ำฉลากเขียวหลากหลายยี่ห้อ ที่วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ทำให้สามารถซื้อได้ง่าย

14
หมอออนไลน์: ต่อมไทรอยด์อักเสบ (Thyroiditis)

ต่อมไทรอยด์อักเสบ หมายถึง การอักเสบของเนื้อเยื่อไทรอยด์ ซึ่งมีสาเหตุและอาการที่แตกต่างกันได้หลายชนิด ที่พบได้บ่อย ได้แก่ ต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากภูมิต้านตนเอง และต่อมไทรอยด์อักเสบจากไวรัส

สาเหตุ

1. ต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากภูมิต้านตนเอง/ไทรอยด์อักเสบแบบฮาชิโมโต (chronic autoimmune thyroiditis/Hashimoto’s thyroiditis) เกิดจากปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง โดยร่างกายมีการสร้างสารภูมิต้านทานต่อไทรอยด์ (antithyroid antibody) ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ พบมากในผู้หญิงวัยกลางคนและสูงอายุ อาจมีประวัติว่ามีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้ด้วย

โรคนี้อาจพบในผู้ที่มีความผิดปกติของสารพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการดาวน์ (Down’s syndrome) กลุ่มอาการเทอร์เนอร์ (Turner’s syndrome) หรือพบร่วมกับภาวะภูมิต้านตนเองอื่น ๆ เช่น เบาหวาน โรคแอดดิสัน เอสแอลอี โรคปวดข้อรูมาตอยด์ ภาวะขาดพาราไทรอยด์ ไมแอสทีเนียเกรวิส ผมร่วงเป็นหย่อมไม่ทราบสาเหตุ เป็นต้น

2. ต่อมไทรอยด์อักเสบจากไวรัส มักเกิดขึ้นฉับพลันหลังเป็นโรคติดเชื้อไวรัส เช่น โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนต้น คางทูม หัด ไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น มักมีอาการอยู่นาน 2-3 เดือน แล้วหายไปได้เอง เรียกว่า ต่อมไทรอยด์อักเสบชนิดกึ่งเฉียบพลัน (subacute thyroiditis) พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 3-5 เท่า และพบบ่อยในช่วงอายุ 20-40 ปี

3. สาเหตุอื่น ๆ ซึ่งพบได้น้อย เช่น

    พบในหญิงหลังคลอด คือมีอาการหลังคลอดบุตร ภายใน 1-6 เดือน เรียกว่า ต่อมไทรอยด์อักเสบหลังคลอด (postpartum thyroiditis) ซึ่งพบว่าร่างกายมีการสร้างสารภูมิต้านทานต่อไทรอยด์ คล้ายกับไทรอยด์อักเสบแบบฮาชิโมโต
    ต่อมไทรอยด์อักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน (acute suppurative thyroiditis) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น สแตฟีโลค็อกคัส สเตรปโตค็อกคัส เป็นต้น มักพบในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์มาแต่กำเนิด (เช่น persistent thyroglossal duct) และผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น เอดส์)
    ต่อมไทรอยด์อักเสบแบบรีเดล (Riedel’s thyroiditis/invasive thyroiditis) มักพบว่ามีภาวะเกิดพังผืด (fibrosis) ที่ต่อมไทรอยด์และอวัยวะอื่น ๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ มักพบในผู้หญิงวัยกลางคนและสูงอายุ
    เกิดจากการใช้ยาบางชนิด เช่น อะมิโอดาโรน (amiodarone) อินเตอร์เฟอรอน (interferon) เป็นต้น

อาการ

ต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากภูมิต้านตนเอง/ต่อมไทรอยด์อักเสบแบบฮาชิโมโต ในระยะแรกอาจไม่มีอาการแสดง จนกว่าจะเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งอาจใช้เวลานานเป็นแรมปี ผู้ป่วยจะมีอาการต่อมไทรอยด์โตแบบกระจาย มีลักษณะแข็งแบบหยุ่น ๆ โดยไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด อาจโตอยู่ข้างเดียว (ซึ่งทำให้คิดว่าเป็นเนื้องอกไทรอยด์) ผู้ป่วยมักมีภาวะขาดไทรอยด์ ร่วมด้วย

บางรายอาจมีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน นำมาก่อนในช่วงแรก แล้วจึงมีภาวะขาดไทรอยด์ตามมา

ในรายที่เป็นต่อมไทรอยด์อักเสบหลังคลอด มักมีอาการคอพอกร่วมกับภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินหลังคลอดประมาณ 1-6 เดือน ซึ่งจะเป็นอยู่นาน 1-2 เดือน แล้วต่อมาเกิดภาวะขาดไทรอยด์ตามมาในช่วง 4-8 เดือนหลังคลอด ซึ่งส่วนใหญ่มักจะหายเป็นปกติได้เอง แต่มีโอกาสกำเริบซ้ำในการคลอดบุตรครั้งต่อ ๆ ไป ผู้ป่วยกลุ่มนี้จำนวนไม่น้อยจะกลายเป็นภาวะขาดไทรอยด์อย่างถาวรในที่สุด

ต่อมไทรอยด์อักเสบจากไวรัส ผู้ป่วยมักมีอาการเกิดขึ้นฉับพลันด้วยอาการไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย คอโต เจ็บคอ ซึ่งอาจร้าวไปที่หู ขากรรไกร ท้ายทอย มักเจ็บมากขึ้นเวลาเงยคอไปข้างหลัง และทุเลาเวลาก้มคอลงข้างหน้า อาการมักเป็นอยู่นานเป็นสัปดาห์ ๆ หรือเป็นเดือน ๆ ในช่วงแรกอาจมีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินร่วมด้วย แล้วต่อมามีภาวะขาดไทรอยด์ตามมา ซึ่งจะค่อย ๆ หายเป็นปกติได้เองในที่สุด (ซึ่งอาจใช้เวลานาน 2-3 เดือน) ส่วนน้อยอาจมีอาการกลับเป็นซ้ำ หรือกลายเป็นภาวะขาดไทรอยด์อย่างถาวร

ผู้ป่วยมักมีประวัติเป็นโรคติดเชื้อไวรัส (เช่น ไข้ หวัด คางทูม หัด) นำมาก่อน

ต่อมไทรอยด์อักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลัน มักมีอาการไข้สูงฉับพลัน ร่วมกับเจ็บคอ คอโต เสียงแหบ กลืนลำบาก

ต่อมไทรอยด์อักเสบแบบรีเดล ผู้ป่วยมักมีอาการคอโต เป็นก้อนแข็ง โตเร็วและไม่เจ็บ อาจโตเพียงข้างเดียวหรือพร้อมกันทั้ง 2 ข้างก็ได้ และอาจมีอาการเสียงแหบ กลืนลำบาก หายใจลำบากร่วมด้วย ประมาณร้อยละ 30 ของผู้ป่วยมีภาวะขาดไทรอยด์ร่วมด้วย น้อยรายที่อาจมีภาวะขาดพาราไทรอยด์เนื่องจากมีภาวะเกิดพังผืดของต่อมพาราไทรอยด์

ภาวะแทรกซ้อน

ที่สำคัญ คือ ภาวะขาดไทรอยด์

สำหรับต่อมไทรอยด์อักเสบแบบฮาชิโมโต นอกจากภาวะขาดไทรอยด์แล้ว ยังอาจมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น หัวใจโต หัวใจวาย ภาวะซึมเศร้า ความรู้สึกทางเพศลดลง หญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคนี้อาจมีทารกที่เป็นปากแหว่งเพดานโหว่ หรือทารกมีความผิดปกติของสมอง หัวใจและไต

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

มักตรวจพบอาการคอพอกหรือต่อมไทรอยด์โต

ในรายที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส มักมีไข้ต่ำ (37.5-38.5 องศาเซลเซียส) ต่อมไทรอยด์โตและกดเจ็บ

ในรายที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักมีไข้สูง (38-40 องศาเซลเซียส) ต่อมไทรอยด์โต กดเจ็บ มีลักษณะแดง ซึ่งมักเป็นเพียงข้างใดข้างหนึ่ง ต่อมาอาจกลายเป็นฝี (กดนุ่ม) มักมีต่อมน้ำเหลืองข้างคอโต

ในรายที่เป็นต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากภูมิต้านตนเอง มักตรวจพบต่อมไทรอยด์โตแบบกระจาย ลักษณะแข็งแบบหยุ่น ๆ

ในรายที่เป็นต่อมไทรอยด์อักเสบแบบรีเดล มักตรวจพบต่อมไทรอยด์โตเป็นก้อนแข็ง และยึดแน่นกับเนื้อเยื่อโดยรอบ

นอกจากนี้อาจตรวจพบภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (เช่น น้ำหนักลด ชีพจรเต้นเร็ว มือสั่น เหงื่อออก เป็นต้น) หรือภาวะขาดไทรอยด์ (เช่น น้ำหนักขึ้น หน้าและหนังตาบวมฉุ ชีพจรเต้นช้า ผิวหนังหยาบแห้งและเย็น ผมบางและหยาบ เป็นต้น)

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจเลือดทดสอบการทำงานของไทรอยด์ (thyroid function test) ตรวจหาสารภูมิต้านทานต่อไทรอยด์ สแกนต่อมไทรอยด์ อัลตราซาวนด์ต่อมไทรอยด์ ในบางรายอาจทำการตรวจชิ้นเนื้อ (fine-needle aspiration biopsy) เพื่อแยกโรคมะเร็งไทรอยด์

การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ ดังนี้

    ต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรังจากภูมิต้านตนเอง ในรายที่มีภาวะขาดไทรอยด์ แพทย์จะให้ฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน ได้แก่ เลโวไทร็อกซีน กินวันละ 1-2 เม็ด ส่วนในรายระดับฮอร์โมนไทรอยด์ปกติ มักจะนัดมาตรวจเลือดเป็นระยะ ๆ ซึ่งอาจจะพบมีภาวะขาดไทรอยด์ตามมา
    ต่อมไทรอยด์อักเสบจากไวรัส ให้แอสไพริน หรือยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ ในรายที่เป็นรุนแรง แพทย์อาจให้เพร็ดนิโซโลน

ถ้ามีภาวะขาดไทรอยด์ (ซึ่งมักเป็นชั่วคราว) แพทย์จะให้ฮอร์โมนไทรอยด์ เช่น เอลทร็อกซิน ทดแทน

    ต่อมไทรอยด์อักเสบจากการติดเชื้อเฉียบพลัน แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะตามชนิดของเชื้อที่เป็นสาเหตุ ในรายที่กลายเป็นฝี อาจต้องทำการผ่าตัดระบายหนอง
    ต่อมไทรอยด์อักเสบแบบรีเดล แพทย์มักจะต้องทำการตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อแยกออกจากโรคมะเร็งไทรอยด์ หากพบว่าเป็นต่อมไทรอยด์อักเสบแบบรีเดล ก็จะให้ยาทาม็อกซิเฟน (tamoxifen) ซึ่งมักจะช่วยให้ก้อนไทรอยด์ยุบลงได้ภายใน 3-6 เดือน และผู้ป่วยควรกินยานี้ต่อไปนานเป็นแรมปี ในรายที่ก้อนโตจนกดอวัยวะข้างเคียงหรือมีอาการปวด มักจะให้เพร็ดนิโซโลนร่วมด้วยในช่วงระยะสั้น ๆ ในรายที่ก้อนโตกดท่อลม (หายใจลำบาก) อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ส่วนในรายที่มีภาวะขาดไทรอยด์ก็จะให้ฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีอาการคอโต ต่อมไทรอยด์โตหรือเป็นก้อน หรือมีอาการไข้ และเจ็บตรงต่อมไทรอยด์ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นต่อมไทรอยด์อักเสบ ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น น้ำหนักลด หรือคอโตมากขึ้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดและปัจจัยที่ป้องกันได้ยาก

ควรหาทางป้องกันไม่ให้โรคกลายเป็นรุนแรงด้วยการดูแลรักษากับแพทย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง

ข้อแนะนำ

1. ต่อมไทรอยด์อักเสบที่เป็นเรื้อรัง มักเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาภูมิต้านตนเอง ผู้ป่วยจะมีอาการคอพอกโดยไม่มีอาการเจ็บคอและไม่มีไข้ และถ้าไม่มีอาการแสดงของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน หรือภาวะขาดไทรอยด์ ก็อาจทำให้คิดว่าเป็นคอพอกธรรมดา ดังนั้น ถ้าพบผู้ป่วยมีอาการคอพอก ควรส่งตรวจหาสาเหตุและให้การรักษาตามสาเหตุ

2. อาการคอพอกที่มีอาการเจ็บปวดที่คอพอกและมีไข้ร่วมด้วยมักเกิดจากไวรัส แม้ว่าอาจมีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินหรือภาวะขาดไทรอยด์ก็มักจะเป็นอยู่เพียงชั่วคราว ส่วนใหญ่จะหายไปได้เองในที่สุด

3. ต่อมไทรอยด์อักเสบที่มีลักษณะคอโตเป็นก้อนแข็งหรือโตเร็ว ควรส่งตรวจชิ้นเนื้อเพื่อแยกออกจากมะเร็งไทรอยด์

15
คอนโดติดรถไฟฟ้า แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4 (Aspire Sukhumvit-Rama 4)
เริ่มต้น 2.99 ลบ. - 9 ลบ.

แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4 (Aspire Sukhumvit-Rama 4)
เตรียมพบคอนโดมิเนียมใหม่ ติดถนนใหญ่พระราม 4 ‘DIVERSE AS YOU ASPIRE’ แตกต่างและหลากหลายในทุกมิติของชีวิต บนทำเลใจกลางเมืองเชื่อมต่อทองหล่อ-เอกมัย ได้อย่างง่ายดาย เข้าถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ใหม่สุดสะดวก ไม่ว่าจะทำงาน ช้อป กินหรือเที่ยว ทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้าพระโขนงและทางด่วน 2 สายหลัก (รามอินทรา-อาจณรงค์ & เฉลิมมหานคร)

 รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ             แอสปาย สุขุมวิท-พระราม 4 (Aspire Sukhumvit-Rama 4)
 เจ้าของโครงการ       เอพี (ไทยแลนด์)
 แบรนด์ย่อย             แอสปาย
 ราคา                    เริ่มต้น 2.99 ลบ. - 9 ลบ.

 ราคาเฉลี่ยต่อตร.ม.      เริ่มต้น 109,000 บ./ตร.ม.
 ลักษณะทำเล            คอนโดใกล้ขนส่งสาธารณะ
 ความสูงคอนโด          High Rise (9 ชั้นขึ้นไป)
 ลักษณะกรรมสิทธิ์       โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 ประเภทห้องที่มี         สตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, อื่นๆ
 ขนาดห้องที่มี            ตั้งแต่ 24.00 ถึง 55.00 ตร.ม.
 เนื้อที่ทั้งหมด            4 ไร่ 3 งาน 55 ตร.ว.
 จำนวนตึก               1 อาคาร
 จำนวนชั้น               38 ชั้น
 จำนวนห้อง             1,323 ห้อง และ 2 ร้านค้า
 ที่จอดรถทั้งหมด        34% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
 ค่าบำรุงส่วนกลาง       45.00 บ./ตร.ม.
 สาธารณูปโภค          อื่นๆ (The Linear Park, The Drop off, The Oasis, The Pick-up, The Aspire Common, The Mail Room, The Co-op Society, The Meeting, The Work Loft, The Chatroom, The Workout, The Gym, The Ride, The Island, The Aqua, The Beachfront, The Club, The Water Lounge, The Dec)

 สถานที่ใกล้เคียง
 โซน     คลองเตย
 ที่ตั้ง     ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

 ขนส่งสาธารณะ
รถไฟฟ้า:          โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ

หน้า: [1] 2 3 ... 20
Tage: ลงประกาศฟรี ติดอันดับ google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ลงประกาศขายที่ดินฟรี ลงประกาศขายคอนโดฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงโฆษณาฟรี google